อุทาหรณ์สำหรับคนเลิกงานดึกที่ต้องระวัง
เราชื่อน้ำผึ้งนะคะ ปัจจุบันเราทำงานเป็นพนักงานธุรการอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ซึ่งบริษัทที่เราทำงานอยู่ก็เป็นบริษัทเล็กๆ ไม่ได้ใหญ่อะไรมาก พนักงานในออฟฟิศก็ไม่ได้มีเยอะมาก เวลาทำงานก็จะทำงานค่อนข้างที่จะจับฉ่ายนิดนึง คนนึงทำงานแทบทุกตำแหน่ง ซึ่งการทำงานแบบนี้มันก็มีข้อดีและข้อเสียในตัวของมันค่ะ สำหรับเราข้อดีก็คือเงินเดือนที่ได้ค่อนข้างที่จะเยอะเลยทีเดียว ด้วยความที่ภาระ หน้าที่ และความรับผิดชอบต่องานที่ค่อนข้างจะเยอะ เงินเดือนที่ได้สำหรับเรามันก็ถือว่าคุ้มค่าในระดับนึง ในขณะที่ข้อเสียของมันก็คืองานที่มันมากเกินไปมันทำให้เราไม่สามารถคอนโทรลงานให้เสร็จภายในเวลาได้ แต่เมื่องานมันต้องทำให้เสร็จตามกำหนด บริษัทก็ใจดีสามารถให้พนักงานทำโอทีได้ ซึ่งมันก็เป็นข้อดีสำหรับเราที่จะทำให้เงินเดือนของเราเพิ่มมากขึ้น แต่ข้อเสียก็คือตัวของเราเองจะได้พักผ่อนน้อยลงไปด้วย
สำหรับในวันนี้ตัวของเราเองอยากจะมาเล่าเรื่องและให้เรื่องนี้มันเป็นอุทาหรณ์สำหรับหลายคนที่ต้องทำงานดึก กลับบ้านดึก และเราก็ไม่อยากให้มันเกิดเรื่องนี้กับใคร โดยเรื่องนี้มันเริ่มต้นมาจากคืนวันหนึ่งที่เราทำโอทีตามปกติเหมือนทุกวัน ปกติแล้วเวลาที่เรามาทำงานเราจะนั่งรถประจำทางเพราะว่าเราไม่มีรถยนต์ส่วนตัว แต่เวลาที่เราทำโอทีและต้องเลิกงานดึก เวลากลับบ้านเราก็เลยเลี่ยงไม่ได้ที่จะใช้บริการแท็กซี่ หลายคนคงมองว่าการนั่งแท็กซี่กลับบ้านมันคุ้มค่าไหมกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ค่อนข้างแพงกับเงินที่เราทำโอที คำตอบของเราก็คือคุ้มค่ะ เพราะว่าถ้าเราเลิกงานหลังสี่ทุ่ม ซึ่งเป็นเวลาที่รถประจำทางหมดไปแล้ว เราจะสามารถเบิกค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าเดินทางได้ และเราก็สามารถเบิกค่าแท็กซี่ได้ทุกครั้งที่เราทำโอทีและกลับบ้านหลังสี่ทุ่ม ในวันเกิดเหตุมันเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น และเราก็ไม่คาดคิดว่าเราจะต้องไปเจอกับแท็กซี่หื่นกาม ซึ่งตอนแรกก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่พอนั่งไปซักพักเราก็เริ่มรู้สึกไม่ดี
แท็กซี่คันที่เรานั่งวันนั้นชวนเราคุยแต่เรื่องทะลึ่งๆ ตั้งแต่ตอนที่เราขึ้นรถและขับออกมาจากบริษัทได้ประมาณไม่กี่กิโล ตอนนั้นเราเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย แต่เราทำอะไรไม่ได้แหละไม่รู้จะโทรหาใครดีเพราะว่าตัวของเราเองก็เป็นหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่งที่เป็นเด็กต่างจังหวัดเข้ามาทำงานในเมืองกรุง และด้วยการใช้ชีวิตที่ทำงานดึกเกือบทุกวันก็เลยทำให้เราไม่ค่อยได้มีเพื่อนหรือมีสังคมเหมือนกับคนอื่นเขา ส่วนเพื่อนที่ออฟฟิศส่วนมากก็จะเป็นรุ่นพี่ที่แก่คราวแม่ ตอนนั้นเราได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้เกิดอะไรขึ้นกับตัวของเรา แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดมันก็เกิดขึ้น ระหว่างทางกลับห้องพัก แท็กซี่คันนั้นก็ขับรถเลี้ยวเข้าไปในโรงแรมม่านรูด ตอนนั้นเราพยายามกรีดร้องเสียงดังมาก แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว เราโดนแทกซี่ขี้เงี่ยนคันนั้นต่อยเข้าที่หน้าท้อง เรารู้สึกจุกและเหมือนกับคนไม่มีแรง แท็กซี่แบกเราลงจากรถและยกเราเข้าไปข้างในห้อง เราได้แต่นอนจุกไม่สามารถทำอะไรได้เลยในตอนนั้น เรารู้สึกตัวตลอดเวลาว่าหนุ่มแท็กซี่ขี้เงี่ยนคนนั้นทำอะไรกับเราบ้าง มันจับเราดูดนม เอานิ้วแทงเข้าไปในรูหีของเรา จนเราเองก็รู้สึกทั้งจุกทั้งเสียว มันพยายามเอาควยมายัดใส่ปากของเราให้เราดูดควยให้ แต่ว่าเราก็พยายามฝืน แท็กซี่ขี้เงี่ยนก็เลยหยุดและเอาผ้ามามัดปากของเราเอาไว้ แล้วจากนั้นเราก็โดนข่มขืน โดนแท็กซี่ขี้เงี่ยนขืนใจ จับเราเย็ดหียังรัว และน่าจะเย็ดสดแตกในด้วย ซึ่งตัวเราเองก็ต้องดูแลตัวเองด้วยการไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมากินเพราะเราไม่อยากเป็นคนที่ท้องไม่มีพ่อ และเราก็เอาเรื่องนี้ไปแจ้งตำรวจแต่จนทุกวันนี้เรื่องนี้ก็ผ่านมาเกือบจะครึ่งปีแล้วแต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ